เครื่องคั่วกาแฟ มือหมุน จาก Niti The Craft Shop

👉การออกแบบทางshopได้คำนึงถึงความพอดีในทุกจุดไม่ว่าจะเป็นระยะห่างของอุณหภูมิไฟ และการกระจายความร้อนที่พอดี โดยไม่สิ้นเปลืองไฟแบบไม่จำเป็น

👉วิธีการคั่ว โดยคั่วเข้มเปิดระดับไฟครึ่งนึง9นาทีก็จะได้เมล็ดกาแฟระดับคั่วเข้ม และใช้7 นาทีระดับคั่วกลาง (ขึ้นอยู่กับชนิดเมล็ด) ผู้ใช้สามารถปรับระดับไฟและเวลาขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้คั่วได้ง่าย

👉ปริมาณเมล็ดที่ใช้คั่ว รอบล่ะ150-400 กรัม

👉วัสดุ สแตนเสล เหล็ก และไม้สัก

👉ด้ามไม้ สัก และสามารถถอดเปลี่ยนตัวด้ามไม้ได้

👉ชิ้นส่วนมีอะไหล่สำรองให้ตลอด

👉ลักษณะการใช้ 1.เตาแก๊สกระป๋อง 2. เตาบ้านทั่วไป

👉จุดดีของตะแกรงมือหมุน สามารถสังเกตุเห็นสีของเมล็ดได้ตลอดเวลา และสามารถนำเปลือกกาแฟให้ออกจากเมล็ดได้โดยง่าย

👉👉👉 งานสแตนเลส และ งานเหล็กทำสี Powdercoating

วิธีคั่วเมล็ดกาแฟNITI The Craft Shop

1.ใส่เมล็ดกาแฟประมาน150-400กรัม ในตะแกรงมือหมุน

2.เปิดไฟเตาแก็ส โดยเริ่มแรกควรใช้ไฟกลางในการคั่วเมล็ด เพื่อเป็นการเทียบความถูกต้องในการใช้ระดับไฟ ในรอบต่อไป

3.เมื่อเทเมล็ดออกจากตะแกรง ควรให้เมล็ดได้ถ่ายเทความร้อนให้มากที่สุด เพื่อคงระดับความสุกของเมล็ดไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงระดับการคั่วเพิ่มอีก

สังเกตุความถูกต้องของระดับไฟที่ใช้เมื่อใช้กับเกจวัดอุณหภูมิ

1.นาทีที่4.30 เป็นการไล่ความชื้นของเมล็ดกาแฟ อุณหภูมิของเมล็ดจะขึ้นไปอยู่ที่ 120 องศา (เมล็ดจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม)

2. นาทีที่6-7 สีของเมล็ดกาแฟจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล อุณหภูมิของเมล็ดกาแฟจะขึ้นประมาณ 150องศา

3.หากผู้คั่วต้องการเมล็ดกาแฟระดับคั่วอ่อน-กลาง ควรเริ่มเบาไฟเมื่อได้ยินเสียงการแตกตัวของเมล็ดการแฟ(นาทีที่8หรือเสียงแคล็กนั่นเอง)อุณหภูมิของเมล็ดที่เกิดการแตกตัวครั้งแรกควรอยู่ที่180-190องศา

4. เบาไฟหลังจากได้ยินเสียงแคล็กแรก หลังจากนั้นประมาณ1นาทีถึง1.30นาที ให้ปิดไฟทันทีแล้วยกตะแกรงออกจากเครื่องจะได้คั่วอ่อน-คั่วกลาง

5. หากผู้คั่วเมล็ดต้องการเมล็ดคั่วเข้ม หลังจากได้ยินเสียงแคล็กแรกแล้ว ไม่ต้องเบาไฟและคั่วต่อไปถึงนาทีที่10-12 (อุณหภูมิอยู่ที่190-210) หรือจนกว่าจะได้ยินเสียงแคล็กของเมล็ดดังขั้นรัวๆดังขึ้นประมาณ 15วิแล้วดับไฟโดยทันที ถือว่าเป็นการจบการคั่วระดับเข้ม

เมื่อคั่วเสร็จ ควรให้เมล็ดคลายแก็สก่อน3วันก่อนทานนะครับ รสชาติของเมล็ดจะดีที่สุดเมื่อผ่านครบ10วันหลังการคั่วเสร็จนะะครับ