KINZO (3.5 ลิตร) สีน้ำทาบ้าน ชนิดด้าน​ สีทาบ้าน​ ภายนอกและภายใน​ เฉดสีธรรมดาและพิเศษ (S) ขนาด 1 แกลลอน (4.6กก)

1 แกลลอน หรือ 4.6 กก. ทาพื้นที่ของกำแพง ได้ประมาณ 30-35 ตร.ม. / 1 รอบ เฉดสีพิเศษ(S) สีสดและเข้มกว่าเฉดสีธรรมดา วิธีการเปิดกระป๋องสี - ใช้ไขควงแบนงัดตรงร่อง 2 ฝั่ง บริเวณฝาของกระป๋องสี คุณสมบัติ - สีน้ำอะครีลิค อิมัลชั่น ผลิตจากกาวอะครีลิคแท้คุณภาพสูง - ยึดเกาะดีเยี่ยม ทนทานต่อแดดและฝนเป็นเยี่ยม ไม่เป็นแป้ง ขุยหรือฝุ่น - เนื้อสีละเอียด เรียบเนียน ให้ผงสีที่สวยงาม ชนิดด้าน - ป้องกันเชื้อรา ไม่ผสมสารปรอทและตะกั่ว - เหมาะสำหรับทาผนังปูนคอนกรีต อิฐบล็อค กระเบื้องแผ่นเรียบ ฯลฯ - ทาได้ทั้งภายนอก และภายในอาคาร อุปกรณ์ที่ใช้งานควบคู่กับสี 1.แปรงทาสี 2.ลูกกลิ้ง 3.เครื่องพ่น ข้อแนะนำ - ผสมน้ำก่อนใช้งาน 10% เพื่อลดความหนืด และทาได้ปริมาณพื่นที่มากขึ้น - ระยะเวลาในการแห้ง สำหรับพื้นผิวหน้า 30 นาที - ระยะเวลาในการทาสีทับได้ 4 - 6 ชม. คำถามที่พบบ่อย 1.สีตัวนี้ต้องรองพื้นไหม 1.1 สำหรับพื้นผิว​เดิม​ดีอยู่​แล้ว​ เป็นสีน้ำ​อะคริลิคชนิดด้าน และสีไม่หลุดลอกล่อน​ หรือเป็นแป้งฝุ่น​ สามารถผสมน้ำทาทับได้เลย​ ควรทาอย่างน้อย​ 2 เที่ยว/รอบ​ ฟิล์ม​สีจะไปกลบทับสีเดิม 1.2 สำหรับพื้วผิวผนังปูนที่ยังไม่เคยทาสีมาก่อน หรือผนังที่เพิ่งฉาบปูนใหม่ ต้องทาสีรองพื้นปูนใหม่ก่อน จำนวน 1 เที่ยว/รอบ 1.3 สำหรับพื้นผิวผนังปูนที่ทาสีมาแล้ว 5-9 ปี แต่พื้นผิวเดิมมีสีหลุดลอกร่อนบ้าง และมีคราบเชื้อราเล็กน้อย ต้องขัดทำความสะอาด ขจัดคราบสกปรกต่างๆ รอแห้งสนิท แล้วจึงทาสี/น้ำยารองพื้นปูนเก่า สูตรน้ำ จำนวน 1 เที่ยว/รอบ 1.4 สำหรับพื้นผิวผนังปูนที่เกิน 10 ปีขึ้น หรือผนังปูนที่มีความเสื่อมโทรมมาก มีคราบเชื้อราจำนวนมาก ต้องขัดทำความสะอาด ใช้น้ำยากำจัดเชื้อรา และขจัดคราบสกปรกต่างๆ แล้วจึงทาสี/น้ำยารองพื้นปูน สูตรน้ำมัน จำนวน 1 เที่ยว/รอบ 2.​วิธีการผสมน้ำและทาสีอย่างไร - ผสมน้ำเล็กน้อย​ 10% หรือ​ 1แก้ว​ โดยเทสีใส่ภาชนะ​อื่น​ ไม่ควรเทน้ำลงในถังสีเลย (ใช้ไม่หมดสามารถปิดฝาให้สนิทเก็บไว้ได้)​ หากใส่น้ำแล้วยังหนืดอยู่​ ค่อยๆ​ ผสมน้ำเพิ่มไปทีละนิด​ อย่าใส่มากเกินไปจะทำให้สีจาง​ ต้องทาหลายรอบ - เมื่อทารอบแรกเสร็จแล้ว ควรทิ้งให้สีแห้งอย่างน้อย 4 ชม. จึงทาทับรอบที่ 2 เพื่อให้สีเรียบเนียนและนวลสวย 3.สีชนิดนี้ทาไม้ได้ไหม สีชนิดนี้ ไม่เหมาะสำหรับทาไม้​ จะทำให้สีไม่สวย​ ยึดเกาะได้ไม่ดี เกิดการแตกร้าว และหลุดลอกง่าย เนื่องจากไม้มีการยืดหดตัวสูง​ โดยจะเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิร้อน-เย็น​