Product description
1. ล้างอุปกรณ์ชงชาด้วยน้ำเดือดก่อนใช้งาน
2. เติมใบชาลงไปในกาชงชาประมาณ 5 กรัม และให้ลวกด้วยน้ำเดือดทิ้งหนึ่งรอบ ( ปกติจะใช้น้ำอุ่น อุณหภูมิ 95-100 องศา )
3. ชงนำ้เดือดลงไปในกาชงขา และทิ้งไว้จนนำ้ชาเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ถ้าชอบดื่มเข้มทิ้งนานกว่านิดหน่อยได้ค่ะ
4. เทน้ำชาออกมาให้หมด และ พักใบชาไว้ ชงได้เลื่อยๆจนกว่าจะจืด
**ในการชงชาครั้งต่อไป ควรเพิ่มเวลาในการแช่ใบชาตามชอบ
**ชาไป๋หมู่ตานมักมีคำกล่าวว่า " หรือแปลว่าชาไป๋หมู่ตันนั้นเมื่อปีแรกดื่มเป็นชาเก็บไปแล้วสามปีกลายเป็นยาดื่มแล้วดีต่อสุขภาพแต่เมื่อผ่านไปเจ็ดปีกลายเป็นของมีค่าสูงส่งเพราะทั้งมีราคาและมีคุณค่าทางยานั่นเอง
รายละเอียดของชาไป๋หมู่ตาน
ชาขาวในสมัยซ่งที่เริ่มแยกประเภทชาขาวออกเป็นเอกเทศอีกหนึ่งชนิดชาจากสี และกระบวนการผลิตมีเพียงสามขั้นคือ (ไฉ่ชิง) เด็ดยอดชาจากต้นชา (ไซชิง) ตากแห้ง และ (หงกาน) ปิ้งไฟให้แห้ง แม้ว่าขั้นตอนน้อยแต่ก็ต้องพิถีพิถันมากไม่ให้สีเปลี่ยน นี่เป็นชาขาวที่ผลิตแต่แรกรสที่ได้จะอ่อนมากสีน้ำใสอมเหลืองกลิ่นหอมดอกไม้สรรพคุณทางยาสูง ไป๋หมู่ตานนั้นค่อนข้างน่าสนใจเพราะว่าชาขาวสมัยปัจจุบันนั้นพัฒนากระบวนการผลิตแตกแยกออกไปไม่เหมือนชาขาวสมัยซ่งแล้ว นี่เป็นเพราะเหตุว่าชาต้นเดียวกันแตกกิ่งก้านพันหมื่นอาจารย์ชายุคหลังซ่งลงมาก็พยายามพัฒนากระบวนการผลิตชาขาวที่ถือได้ว่าล้ำเลิศและเลอค่ากว่าชาทั่วไป ซึ่งได้พัฒนาต่อเนื่องมาจนสิ้นยุคชิงและเมื่อเข้าสู่ยุคสาธารณรัฐชาขาวจึงเกิดกระบวนการผลิตทั้งสิ้น 4 แบบคือ(ฉวนอินกาน/ตากในที่ร่มจนแห้งสถานเดียว) (ป้านอินกานป้านหงกาน/ตากในที่ร่มและอบแห้ง) (ป้านไซกานป้านอินกาน/ตากแดดและตากในที่ร่ม) และ(ฉวนหงกาน/อบแห้งอย่างเดียว)
ซึ่งชาโบตั๋นขาวที่กล่าวถึงมักมีการผลิตสองแบบคือ(ฉวนอินกาน/ตากในที่ร่มจนแห้งสถานเดียว) และ (ป้านอินกานป้านหงกาน/ตากในที่ร่มและอบแห้ง) เนื่องจากลักษณะใบของชาโบตั๋นขาวนี้ใบจะบางยาวเรียวขนอ่อนเต็มแน่น เด็ดตั้งแต่ยอดจนถึงใบ 1,2,3 หากใช้การตากแดดทั้งหมดจะทำให้ใบยอดเปลี่ยนเป็นสีเหลืองขนร่วง ใบรองเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ ดังนั้นจึงไม่ใช้การตากแดดโดยตรง มีในบางแห่งยังใช้ (ป้านไซกานป้านอินกาน/ตากแดดและตากในที่ร่ม) อยู่และที่นับกันว่าชาขาวเป็นชาที่เกิดกระบวนการหมัก (/ฟาเจี้ยว) น้อยนั่นเพราะว่าเมื่อเด็ดมาแล้วก็ผึ่งเอาไว้คืนหนึ่งโดยไม่มีการหยุดปฏิกริยาในใบชาหรือการ (ซาชิง) โดยใช้ความร้อนทันทีอย่างชาเขียวดังนั้นถือว่าเกิดกระบวนการหมักอย่างการแลกเปลี่ยนออกซิเจนกับอากาศ (Oxidation) ขึ้นแล้ว ชาขาวเรียกว่าหมักน้อยเพราะเหตุเช่นนี้เอง
•ใช้ภาชนะมีฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้า
•ไม่ควรให้ใบชาถูกอากาศโดยไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงจากแสงแดด
•หลีกเลี่ยงความชื้น เพราะความชื้นจะเป็นตัวทำลายคุณภาพของใบชา
•ไม่ควรนำภาชนะที่มีกลิ่นมาบรรจุใบชา หรือเก็บใบชาไว้ใกล้กับสิ่งของที่มีกลิ่น
•ไม่ควรใช้มือหยิบจับชาโดยตรง เพราะอาจทำให้ชาเสียรสชาติได้ ควรใช้ช้อนตักชา