About this product
มาตราฐานเลขที่ มอก.-
ความยาวของสาย (ม.)-
กำลังไฟ (W)-
ประเภทของการรับประกันการรับประกันของผู้ผลิต
Product description
��ไฟในเก๋ง Toyota Corolla AE92 AE100 AE110 AE111 EE112 รุ่นไฮทอร์ก Hi-Torque จำนวน 1 ดวง บรรจุในกล่อง
กว้าง 7.5 cm. x ยาว 14 cm.
�� จัดส่งภายใน 1-2 วันทำการ (ฟรีค่าส่ง)
============================================================
ประวัติ Toyota Corolla AE92 AE100 AE110 AE111 EE112 รุ่นไฮทอร์ก Hi-Torque
============================================================
รุ่นที่ 6 (พ.ศ. 2530-2536)
เมื่อความนิยมในการซื้อรถโคโรลล่าโฉมที่ 5 ไปถึงจุดอิ่มตัว ก็ได้มีการเปิดตัวรถโคโรลล่า โฉมที่ 6 ใน พ.ศ. 2530 และส่งเข้าตีตลาดขายแทนโฉมที่ 5 ในปีพ.ศ. 2531 โฉมนี้ เป็นโฉมที่รถโคโรลล่า ได้เลื่อนขั้นจากรถขนาดเล็กมาก (Subcompact) เป็นรถขนาดเล็ก (Compact) โฉมนี้ ระบบขับเคลื่อนล้อหลังหายไป ได้มีการเพิ่มการผลิตรูปแบบตัวถัง hatchback 5 ประตู
โฉมนี้ ผลิตในช่วงที่ระบบเกียร์อัตโนมัติถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รถโฉมนี้ ได้เริ่มมีการผลิตเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มา แต่ก็ยังผลิตรถรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีดอยู่ เครื่องยนต์ก็ยังมีทั้งระบบเบนซิน ในขนาดเครื่องยนต์ 1.3 (2E 4 สูบ OHC 12 วาล์ว 1,295 ซีซี 72 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.3 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที) , 1.5 (5A-F,5A-FE 1,500 ซีซี คาร์บิวเรเตอร์ 85 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.5 กก.-ม.ที่ 3,300 รอบ/นาที และ 94 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.1 กก.-ม.ที่ 4,400 รอบ/นาทีสำหรับรุ่นหัวฉีด EFI) , 1.6 ลิตร (4A-F 1,587 ซีซี 94 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.0 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที รวมทั้งรุ่น SPORTY ที่เปลี่ยนคาร์บิวเรเตอร์ของเครื่องยนต์ 4A-F มาเป็นเวบเบอร์ ท่อคู่ดูดข้าง 106 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.9 กก.-ม.ที่ 4,200 รอบ/นาที , 4A-FE 1,587 ซีซี 102 แรงม้า (PS) ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.83 กก.-ม.ที่ 4,800 รอบ/นาที, 4A-GE 16v 1,587 ซีซี 130.5 แรงม้า (PS) ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.3 กก.-ม.ที่ 6,000 รอบ/นาที.) *เครื่องยนต์4A-FEมีขายในเฉพาะญี่ปุ่นกับสหรัฐอเมริกา และแบบดีเซล ในขนาดลูกสูบ 2.0 ลิตร (1C) และยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงโฉมนี้ โคโรลล่า เลวิน, โคโรลล่า ทรูโน และโคโรลล่า สปรินเตอร์ ได้เปลี่ยนมาเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และโฉมนี้ พ่อค้าเต๊นท์รถในประเทศไทยนิยมเรียกว่า "โฉมโดเรมอน" ด้วยรูปทรงหน้าตาที่ละม้ายคล้ายคลึงตัวการ์ตูนอย่างโดเรม่อน ผสานเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ทนทาน และล้ำสมัยในสมัยนั้น
============================================================
รุ่นที่ 7 (พ.ศ. 2534-2540)
โฉมนี้ เปิดตัวครั้งแรกใน พ.ศ. 2534 โฉมนี้ ได้เริ่มมีการผลิตเกียร์ธรรมดา 6 สปีดขึ้น ควบคู่กับการผลิตรถเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 และ 3 สปีด เครื่องยนต์ยังมีระบบดีเซล (2.0 ลิตร) และเบนซิน (1.3 , 1.5 , 1.6 , 1.8 ลิตร) โดยโฉมนี้ได้เข้ามาในประเทศไทยเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ. 2534 แต่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2535 ทันทีที่เปิดตัวในไทย โคโรลล่าโฉมนี้ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ยอดการจองรถทะลุ 10,000 คันอย่างรวดเร็วกว่าที่โรงงานคิดไว้มาก และยอดจองยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้โรงงานโตโยต้าสำโรงจะเร่งผลิตเต็มที่ งัดแผนสำรองมาใช้ แม้กระทั่งสั่งนำเข้ารุ่น LX Limited จากญี่ปุ่นมา 1,000 คัน และเพิ่มราคาขายคันละ 5,000 บาท เพื่อลดการจองซื้อ ก็ยังไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า จนสุดท้ายต้องมีการก่อสร้างโรงงานโตโยต้าเกตเวย์ สำหรับทำการประกอบรถยนต์นั่งโดยเฉพาะ
============================================================
รุ่นที่ 8 (พ.ศ. 2538-2545)
โฉมนี้ เปิดตัวครั้งแรกใน พ.ศ. 2538 โฉมนี้มีชื่อเรียกโดยรวมๆว่า โฉมตองหนึ่ง ตามเลขรหัสตัวรถ แต่กว่าจะได้โด่งดังแทนที่โฉมสามห่วง ก็ล่วงไปถึง พ.ศ. 2541 ทางโตโยต้า ต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้มีความหลากหลายและสร้างความเป็นที่นิยมให้ประสบความสำเร็จสูงเหมือนโฉมสามห่วง ดังนั้น ผลการปรับปรุงคือ โฉมตองหนึ่งได้แตกแขนงออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ รุ่นตูดเป็ด ผลิตระหว่าง พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2541 และรุ่นไฮทอร์ก (Hi-Torque) เริ่มผลิตเมื่อ พ.ศ. 2541 - พ.ศ. 2544 ในรุ่นไฮทอร์ก มีการยกระดับความปลอดภัยของตัวถังรถด้วยโครงสร้างนิรภัย GOA และเพิ่มความหรูหราด้วยไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ โดยมี ดอม เหตระกูล เป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งรุ่นไฮทอร์กนี้ได้สร้างความนิยมโดยมีคนซื้อไปทำแท๊กซี่เป็นจำนวนมาก และนอกจากนี้ ในช่วงรุ่นไฮทอร์กนี้ โคโรลล่า ยังได้เปิดตัวเนื้อหน่อใหม่ในตระกูลโคโรลล่า ที่เป็นที่นิยมในไทยจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ โคโรลล่า อัลติส (Corolla Altis) ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี พ.ศ. 2543 โดย Altis จะเป็นรถที่มีความหรูหรา มีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย Options ต่างๆ ดีกว่า รูปโฉมตัวรถจะเหมือนกับโคโรลล่าทั่วไป สำหรับในไทย โคโรลล่า อัลติส จะมีรุ่นย่อย 2 รุ่นคือ 1.8 SE.G และ 1.6 SE.G ส่วนรุ่นย่อย 1.6 GXi จะใช้ชื่อว่า โคโรลล่า เช่นเดิม แต่เมื่อโคโรลล่า อัลติส ทั้ง 2 รุ่นย่อยเริ่มจำหน่ายในไทย ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยังคงคุ้นกับชื่อ โคโร