Product description
เมื่อได้รับสินค้า แกะยางออก สังเกตุดิน ถ้าดินแห้ง เยาะน้ำนิดหน่อย แล้ววางเรียงไว้ในที่อากาศถ่ายเท สามารถไว้ได้หลายวัน
สินค้าเสียหาย หรือสินค้าไม่ครบ สามารถแจ้งทางแชทได้นะคะ
การปลูกต้นดอกคัตเตอร์ ตามวิถีอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลง
1. เตรียมแปลง ด้วยการขุดดินเป็นแปลงหรือไถพรวน นำปุ๋ยคอกมามาผสมกับดิน รดน้ำแล้วทิ้งไว้ ประมาณ 1-2 เดือน ยิ่งหมักนานยิ่งดี (ให้มูลสัตว์ย่อยสลายและบำรุงดินให้พร้อมเพื่อปลูก) ในกรณีมีเวลาน้อย หลังจากขุดดินทำแปลงแล้วให้นำขี้วัวแห้งไปแช่น้ำไว้ 1 วัน 1 คืน แล้วเอาน้ำมารดแปลง เป็นการให้ปุ๋ยน้ำแบบเร่งด่วน
2. เตรียมต้นพันธุ์ เมื่อได้รับต้นพันธุ์ที่ส่งทางไปรษณีย์ ให้นำต้นพันธุ์ออกจากกล่อง ผึ่งให้คลายร้อน 1-2 ชั่วโมง จากนั้นนำไปแช่น้ำในภาชนะที่เตรียมไว้ โดยระดับน้ำสูง 1 ข้อนิ้วมือ หรือแค่พอท่วมราก ไม่ต้องให้ท่วมถึงใบ เพื่อให้ต้นพันธุ์ได้ฟื้นตัว ในขั้นตอนนี้จะผสมหรือไม่ผสมน้ำราเร่งรากก็ได้ (สูตรของที่ไร่ ไม่ใช้น้ำยาเร่งราก แต่ใช้จุลินทรีย์แทน ซึ่งต้นพันธุ์ที่ส่งให้ลูกค้า ผ่านการแช่จุลินทรีย์เรียบร้อยแล้ว)
3. แนะนำให้ปลูกต้นพันธุ์ภายใน 1-3 วันหลังจากที่ได้รับพันธุ์ เพื่อให้ต้นพันธุ์ฟื้นและปลูกติดได้ไว และควรปลูกในเวลาบ่ายๆ เย็นๆ จะดีกว่าปลูกตอนกลางวัน ทั้งนี้เพื่อให้เวลาต้นพันธุ์ได้ปรับตัว และในช่วง 15 วันแรกของการปลูก ควรมีวัสดุ อุปกรณ์ช่วยบังแดด เช่น สแลน หรือรักษาความชุมชื้นด้วยการคลุมฟาง หรือเศษหญ้าที่โคนต้น
4. การปลูก เมื่อเตรียมแปลงเรียบร้อย และได้ต้นพันธุ์ไปแล้ว ให้ขุดหลุมในแปลงที่เตรียมไว้ ความลึกของหลุมอยุ่ที่ประมาณ 15 เซนติเมตร หากเป็นแปลงที่หมักแล้วมาไมต่ำกว่า 1 เดือน ไม่จำเป็นต้องรองก้นหลุมด้วยมูสลัตว์ ในกรณีที่ต้องการรองก้นหลุมด้วยมูลสัตว์ ต้องเป็นมูลสัตว์ที่ผ่านการหมักแล้วเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดรา หากยังไม่ได้หมักมูลสัตว์เกิน 30 วัน ไม่แนะนำให้รองก้นหลุม แต่ให้ใช้วิธีนำมูลสัตว์ไปแช่น้ำ ตามที่แนะนำในข้อ 10 จะดีกว่า ระยะการปลูก หากปลูกเพื่อตัดดอกขาย ควรใช้ระยะ 30x30 ซ.ม. หากปลูกประดับสามารถใช้ระยะเท่าที่แนะนำ หรือ 20x20 ตามพื้นที่ที่มี ในกรณีปลูกเพื่อขยายพันธุ์ใช้ระยะ 15x15 ได้เลย
5. นำต้นพันธุ์ลงหลุม 1-2 ต้นต่อ 1 หลุม แล้วแต่ขนาดพื้นที่ กลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่มชื้น หากมีฟางหรือเศษหญ้าคลุมแปลงในช่วง 15 วันแรกจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ต้นพันธุ์ได้ดี
6. การรดน้ำ ในช่วง 15 วันแรกให้รดตอนเช้าและช่วง 3-5 โมงเย็น เมื่อต้นพันธุ์ฟื้นคืนตัวแล้ว ให้รดวันละครั้งในช่วงเช้า ควรระวังการรดน้ำหลังพระอาทิตย์ตกเพราะอาจทำให้เกิดเชื้อรา รากเน่าได้ง่าย
7. สามารถใส่ปุ๋ยคอก หรือชีวภาพได้ทุก 15 หรือ 30 วัน เพื่อบำรุงและเร่งการเติบโต หากเริ่มสังเกตเห็นการติดดอกในช่่วง 45 วันแรกหลังจากปลูก แนะนำให้ตัดดอกทิ้ง เพื่อปล่อยให้ต้นพันธุ์โตเต็มที่ อายุการออกดอกที่สมบูรณ์จะอยู่ที่ึ 75-90 วัน
8. การให้ไฟ เพื่อให้ได้ต้นดอกไม้ที่สูงในระดับเอว ก้านยาว ควรเริ่มให้ไฟเมื่อต้นพันธุ์มีอายุ 2 เดือน ไฟที่ให้ คือไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านปกติ ติดที่แปลงให้แสงส่องสว่างทั่วแปลง ระยะเวลาการให้คือ หลังพระอาทิตย์ตกดิน จนถึง 20.00 น.หรือ 21.00 น. และหยุดการให้ไฟเมื่อเริ่มออกดอกหรือครบ 3 เดือน
9.โรครากเน่า ทำให้ต้นคัตเตอร์เหี่ยว เฉาและตายไปในที่สุด พบได้ในทุกฤดู และพบมากในฤดูฝน สามารถใช้จุลินทรีย์ไตรโคเดอร์ม่า, บาซิลลัส, อรุณสวัสดิ์, ควันน้ำส้ม,น้ำหมักชีวภาพเปลือกมังคุด ฉีดพ่นแปลง 15 วันต่อครั้ง หรือ สัปดาห์ละ 2-3 วันในฤดูฝน ในกรณีที่พบเห็นต้นเหี่ยวให้ถอนออกจากแปลงและนำไปเผาไฟ เพื่อกำจัดเชื้อราหรือแบคทีเรีย
10. แมลงหวี่ขาว และเต่าแตง เมื่อคัตเตอร์เริ่มแทงดอก เหล่าแมลงก็จะมาดอมดมและกัดกินดอก สามารถให้ควันน้ำส้มและน้ำหมักชีวภาพไล่แมลงฉีดพ่นตามความเหมาะสม
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการปลูกและดูแลคัตเตอร์แบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี หรือยาฆ่าแมลง เพื่อสุขภาพที่ดีของคนปลูก และลูกค้าที่นำดอกไม้ไปใช้ก็มั่นใจได้ว่า เป็นดอกไม้ที่ปลอดภัย