นปี 1984 แทบจะไม่มีใครสังเกตว่า Pepsi Generation ได้ฉลองครบรอบปีที่ 20 แต่กลับสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการโฆษณา ซึ่งในครั้งนี้ดนตรีป๊อปได้เข้ามารับบทเด่น ด้วย Pepsi. The Choice of a New Generation และอีกครั้งที่ส่งให้เป๊ปซี่เป็นผู้นำแถวหน้าในวัฒนธรรมร่วมสมัย ในก้าวแรก แคมเปญ New Generation เป็นการปะทะกันระหว่างสุดยอดเอ็นเตอร์เทนเนอร์แห่งยุค ไมเคิล แจ๊คสัน และ บิลลี จีน นำแสดงในโฆษณาชุดของ เป๊ปซี่-โคลา เป็นการรวมเอาโลกของธุรกิจและความบันเทิงเข้าไว้ในวิถีทางที่ไม่มีใครเห็นมาก่อน
เส้นทางความสำเร็จของเป๊ปซี่ จากโฆษณา Pepsi Generation ถึง Pepsi Challenge และสู่ New Generation ส่งผลกระทบไปทั่ว โคคา-โคล่า ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดของ Pepsi-Cola พยายามหนีจากการเจริญเติบโตของเป๊ปซี่ จนได้ละทิ้งสูตรส่วนผสมเดิมๆ ที่ล้าสมัยของโค้ก และปรับเปลี่ยนให้รสชาติใกล้เคียงกับเป๊ปซี่ยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ดีผู้บริโภคให้การปฏิเสธอย่างรวดเร็ว จนโคคา-โคล่าต้องกลับมาสู่ผลิตภัณฑ์เดิมภายใต้ชื่อ โคคา-โคล่า คลาสสิก ประานเป๊ปซี่ โรเจอร์ เอ็นริโค ประกาศชัยชนะในสงครามโคล่า และให้รางวัลแก่พนักงานของเป๊ปซี่ด้วยการประกาศวันหยุดเพิ่มเติมตลอดช่วงยุค 80 ดารา ซูเปอร์สตาร์ มากมายได้เข้ามาร่วมงานกับเป๊ปซี่ รวมทั้งนักร้องเพลงป๊อปอย่าง ไลโอเนล ริชชี่, ทีน่า เทอร์เนอร์, เดวิด โบวี่, เกล็น เฟรย์ และ กลอเรีย เอสตาฟาน และนักกีฬาชื่อดัง โจ มอนทานา และ แดน มาริโน ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรก เจอรัลดีน เฟอร์ราโร ก็นำแสดงในสปอตโฆษณา ไดเอทเป๊ปซี่ ด้วย ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ ก็ได้ฝากฝีมือยอดเยี่ยมไว้ในภาพยนตร์โฆษณาชุดของ เป๊ปซี่ และ ไดเอทเป๊ปซี่ ไมเคิล แจ๊คสัน กลับมานำแสดงในภาพยนตร์โฆษณาอลังการ และเป๊ปซี่ได้ขึ้นไปบนกระสวยอวกาศซึ่งออกแบบเป็นพิเศษ กระป๋องอวกาศ เมื่อเป๊ปซี่ขยายฐานผู้บริโภคออกไปด้วยการโฆษณา การขยายไปนานาชาติก็ดำเนินต่อไป เป๊ปซี่เปิดตลาดใหม่ๆ ด้วยการกระจายไปยังประเทศจีน ในตอนกลางของทศวรรษมีโรงงานเป๊ปซี่มากกว่า 600 โรงใน 148 ประเทศทั่วโลก