คนไทยมีความเชื่อว่าต้นเสลาเป็นไม้มงคล หากปลูกไว้ประจำบ้านจะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลทำให้บ้านนั้นมีฐานะสูงขึ้น
เป็นต้นไม้ขนาดกลางโตช้า ผลัดใบ สูง 1-2 เดคาเมตร เรือนยอดทรงกลมทึบ ใบดก กิ่งโน้มลงรอบทรงพุ่ม เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ มีรอยแตกเป็นทางยาวตลอดลำต้น ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปขอบขนาน กว้าง 6-10 เซนติเมตร ยาว 16-24 เซนติเมตร ปลายเรียวแหลมเป็นติ่ง โคนมน เนื้อใบหนาปานกลาง เส้นใบมีขนนุ่มทั้งสองด้าน ดอกสีม่วง ม่วงอมชมพู หรือม่วงกับขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง กีบเลี้ยงเชื่อมกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5-8 แฉก กลีบดอกส่วนใหญ่เป็น 6 กลีบ รูปกลมบางยับย่น ขอบย้วย โคนคอดเป็นก้านสั้น ๆ เมื่อบาน เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 เซนติเมตร เกสรตัวผู้จำนวนมาก ผลรูปเกือบกลม ผิวแข็ง ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ผลแห้งแตกตามยาว 5-6 พู เมล็ดสีน้ำตาลเข้มจำนวนมาก มีปีก ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นเสลา
ต้น
ต้นเสลา เป็นต้นไม้ที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยมีความสูงประมาณ 10-20 เมตร และเป็นไม้ผลัดใบมีเรือนยอดเป็นพุ่มแน่น กิ่งห้อยย้อย ลำต้นกลม แข็งแรงในระดับหนึ่ง เปลือกมีสีเทาแกมดำ มีรอยแตกเป็นริ้วยาวตลอดลำต้น
ใบ
ต้นเสลามีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม ใบมีรูปขอบขนาน ขนาดความกว้างประมาณ 6-10 เซนติเมตร และยาว 16-25 เซนติเมตร โคนใบมน ปลายใบแหลม ใบมีสีเขียว ผิวใบมีขนปุยอ่อนนุ่มปกคลุมอยู่ทั่ว ทั้ง 2 ด้าน
ดอก
ดอกของต้นเสลาจะมีสีม่วงอมชมพูสวยงาม ซึ่งจะออกดอกบริเวณกิ่งแก่หรือปลายกิ่ง และออกดอกเป็นช่อรูปทรงกระบอก ช่อดอกยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร ดอกประกอบไปด้วย กลีบรอง กลีบเลี้ยงปลายแยกออกมี 6 แฉก และมีก้านช่อดอก ซึ่งจะมีขนอ่อนนุ่มสีเหลืองปกคลุม กลีบดอกจะมีประมาณ 6-8 กลีบ มีเกสรตัวผู้อยู่จำนวนมาก เมื่อดอกบานจะมีขนาดความกว้างประมาณ 6-8 เซนติเมตร และต้นเสลาจะออกดอกช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม
ผล
ต้นเสลามีผลรูปทรงกลม ยาวประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร ผิวนอกผลแข็ง ผลมีสีเขียวอ่อน เมื่อผลสุกจะมีสีน้ำตาล และเมื่อผลแห้งจะแตกออก ภายในผลมีเมล็ดอยู่จำนวนมาก เมล็ดแบนมีสีน้ำตาลอมเหลือง ต้นเสนาจะติดผลในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกรกฎาคม
ต้นเสลา สามารถพบเจอได้ทั่วไปในป่าเบญจพรรณ ป่าชายหาด และป่าดิบ โดยพบส่วนใหญ่ทางภาคกลางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ไปจนจึงภาคใต้ของประเทศไทย