About this product
- วัสดุ:พลาสติก,เคลือบโลหะ
- เพศ:ไม่จำกัดเพศ
- จํานวนต่อแพ็ค:1
- โอกาส:เป็นมงคล
Product description
แหนบสีทอง3พระอรหันต์แห่งโชคลาภ
แถม ธุป2อันพร้อมยันต์และคาถาบูชา
พระสีวลี พระอุปคุต พระสังกัจจายน์ 3 พระอรหันต์ แห่งโชคลาภ
พระสีวลี อรหันต์แห่งความโชคดี มีโชคลาภ
หากกล่าวถึงพระอรหันต์แห่งโชคลาภ พระพุทธเจ้าทรงยกย่องให้ 'พระสีวลี' เป็นเอตทัคคะผู้มีลาภสักการะมาก พระอรหันต์ศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นที่รักของทั้งเหล่ามนุษย์และในหมู่เทวดา เพราะไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไปทางใด ตลอดเส้นทางนั้นผู้คนจะพบพานแต่ความสุขจากความอุดมสมบูรณ์ พูนผลด้วยโชคลาภ แม้แต่เทวดาก็ปรารถนาที่จะทำบุญกับพระองค์ อันเกิดจากผลบุญกุศลของพระสีวลีที่มีต่อพระพุทธศาสนามาในทุกภพทุกชาติ สั่งสมดลบันดาลให้พระสีวลีกลายเป็นผู้มีบารมีมาก
องค์พระสีวลีที่ชาวไทยพุทธคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือ พระสีวลีปางธุดงค์ มีพุทธลักษณะอิริยาบถย่างก้าว ครองจีวรภิกษุสงฆ์ พระหัตถ์ขวาถือไม้เท้า พระหัตถ์ซ้ายแบกกลดไว้เหนือบ่า ทรงสะพายบาตร ย่าม และกาน้ำในลักษณะธุดงค์ พรั่งพร้อมด้วยปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต มาจากเหตุการณ์ในพระไตรปิฎก เมื่อครั้นที่พระสีวลีทรงเดินธุดงค์ในพื้นที่กันดาร แต่กลับมีลาภสักการะมาสู่คณะสงฆ์อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
หัวใจสำคัญของการบูชาพระสีวลีคือการทำบุญทำทานในที่ที่ยากลำบากด้วยจิตศรัทธาที่มีอย่างเต็มเปี่ยม แม้จะเป็นเพียงเงินน้อยนิด หรือเป็นของที่ไม่มีราคา แต่หากทำบุญด้วยความมานะอุตสาหะให้บังเกิดความสำเร็จ บุญกุศลจะส่งผลให้ผู้นั้นมีความปิติในตัวเอง ผู้รับเองก็เกิดความปิติที่ได้รับในสิ่งที่ต้องการอย่างยิ่งยวด
พระอุปคุต พระอรหันต์ที่เชื่อว่ายังคงดำรงอยู่จนถึงทุกวันนี้
พระอุปคุต หนึ่งในพระมหาเถระที่มีความสำคัญในพระพุทธศาสนา ถือกำเนิดในยุคหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้วกว่าสองร้อยปี พระพุทธเจ้าได้ทำนายการมาถึงของพระอุปคุตเอาไว้ตั้งแต่ยังทรงพระชนม์อยู่ ว่าจะมีอนุพุทธที่ปราศจากมหาปุริสลักษณะมาสืบทอดพระธรรมวินัย และทรงยกย่องพระอุปคุตเอาไว้ล่วงหน้าหลายร้อยปี ว่าจะเป็นเอตทัคคะในทางผู้เป็นพระธรรมกถึก (ผู้กล่าวสอนธรรม คือ ผู้แสดงธรรมหรือนักเทศน์)
ในปีพุทธศักราช ๒๑๘ เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างเจดีย์ขึ้น ๘๔,๐๐๐ แห่งทั่วชมพูทวีป ได้จัดงานฉลองสมโภชพระมหาสถูปทั้งหมดที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เป็นเวลา ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน แต่ถูกพระยาวัสดีมารมาผจญ หมายทำลายการสักการบูชาพระมหาสถูป พระเจ้าอโศกมหาราชจึงนิมนต์พระอุปคุตมาปราบ จนพญามารยอมพ่ายต่ออธิษฐานฤทธิ์ของพระอุปคุต และยังกลับใจมานับถือพระพุทธศาสนา จากเหตุการณ์นั้นทำให้พระอุปคุตมีชื่อเสียงมากในทางปราบมาร
แม้เหตุการณ์ในพระไตรปิฎกจะล่วงเลยมากว่า ๒,๐๐๐ ปีแล้ว แต่ตำนานอิทธิฤทธิ์ของพระอุปคุตยังคงเป็นที่เล่าขานสืบมา พุทธศาสนิกชนยังคงนิมนต์องค์พระอุปคุตมาประกอบในพิธีสำคัญทางศาสนาต่างๆ เพื่อคุ้มครองให้การทำพิธีสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เชื่อว่าผู้ใดได้ใส่บาตรกราบสักการบูชาพระอุปคุต ผู้นั้นจะอุดมด้วยโภคทรัพย์ ไม่ยากจน มีเหลือกินเหลือใช้ บังเกิดแต่สิ่งดีงามที่เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
พระสังกัจจายน์ อรหันต์แห่งความอุดมสมบูรณ์
พระมหากัจจายนะ หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า พระสังกัจจายน์ เนื่องจากองค์พระประธานพระกัจจายนะประทับอยู่ที่วัดสังข์กระจายวรวิหาร ชาวไทยพุทธจึงเรียกเพี้ยนกันมาว่า 'พระสังกัจจายน์' จวบจนถึงทุกวันนี้ และหลายคนก็มักจำสับสนกับพระศรีอริยเมตไตร ที่เป็นพระโพธิสัตว์ ซึ่งมีลักษณะอ้วนท้วนสมบูรณ์เช่นกัน ความแตกต่างขององค์พระทั้ง ๒ องค์คือ พระศรีอริยเมตไตรนะจะห่มจีวร และมีพระเกศา (ผม) ขึ้นเป็นปมๆ แต่พระสังกัจจายน์จะมีลักษณะพระเศียร (หัว) โล้น พระกรรณ (หู) ยาวยาน ยิ้มแย้มแจ่มใส และถือลูกประคำ
พุทธลักษณะของพระกัจจายนะ มีพระวรกายสีทองอร่าม อวบอ้วน พุงพลุ้ย ใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ในโชคลาภ ที่ตามมาด้วยความปิติสุข พุทธปฏิมากรรมองค์พระสังกัจจายน์เป็นหนึ่งในพุทธลักษณะที่โดดเด่นที่สุด ในบรรดาพุทธสาวกจำนวน ๘๐ องค์ และพระเอตทัคคะ ๔๑ องค์ เชื่อว่าผู้ใดบูชาพระมหากัจจายนะ หรือ พระสังกัจจายน์ ผู้นั้นจะได้รับพรจากพุทธสาวก ชีวิตอุดมด้วยลาภ ยศ และความเจริญรุ่งเรือง