✦มะเขือเทศ📌10แถม1!!🎯ถูกที่สุด10บ.🎯เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศทุกสายพันธุ์ 5-20 เมล็ด🌿 ปลูกง่าย🌱โตไว🌱ผลดก※ เสื้อ ผูก เข็มขัด กางเกงขาสั้น

*****สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อขยายพันธุ์ต่อได้******

มะเขือเทศจี้ดจ้าด 20 เมล็ด เบบี้พลัม 5 เมล็ด

มะเขือเทศเชอรี่แดง 10 เมล็ด พวงหอม 5 เมล็ด

มะเขือเทศเชอรี่คละสี 10 เมล็ด โอเปอร์ริโอ 5 เมล็ด

มะเขือเทศสีดา 20 เมล็ด แบล็คปริ๊น 5 เมล็ด

มะเขือเทศฺบิ้ก บีฟ 5 เมล็ด โกลเด้นเชอรี่ 5 เมล็ด

มะเขือเทศฟักทอง 10 เมล็ด แคระดำ 10 เมล็ด

มะเขือเทศราชินี 20 เมล็ด

มะเขือเทศแคระเหลือง 10 เมล็ด

มะเขือเทศเชอรี่ดำ 10 เมล็ด

มะเขือเทศแคระ 10 เมล็ด

มะเขือเทศแฟนซี 20 เมล็ด

มะเขือเทศ หัสใจ 10 เมล้ด

มะเขือเทศ เชอรี่เหลือง 10 เมล็ด

มะเขือเทศซุปเปอร์สวีท 10 เมล็ด

มะเขือเทศลูกแพร์เหลือง 10 เมล็ด

มะเขือเทศญี่ปุ่นHana sweet 5 เมล็ด

มะเขือเทศโทมัส 5 เมล็ด

มะเขือเทศโซลาริโน่ 5 เมล็ด

ซุปเปอร์สวีทออสเตรีย 5 เมล็ด

ราชินีออสเตรีย 5เมล็ด

สวีทโทนี่ 10 เมล็ด

🎈วิธีเพาะเมล็ดมะเขือเทศ

อายุเก็บเกี่ยวเมื่อต้นมีอายุประมาณ 70-90 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ อายุตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตทั้งหมดประมาณ 4-5 เดือน

1.หว่านเมล็ดลงในกระบะเพาะ ประมาณ 10 วันเมล็ดจะเริ่มงอกและแตกใบจริง หรือเพาะในกล่องพลาสติกใสที่มีฝาปิด โดยโรยเมล็ดบาง ๆ ลงบนกระดาษทิชชู รดน้ำให้ชุ่มทิ้งไว้เพื่อสังเกตการณ์ เพียง 3-4 วัน เมล็ดจะเริ่มงอกและมีใบเลี้ยงเล็กๆ โผล่ให้เห็น ก็สามารถย้ายลงวัสดุปลูกต่อได้เช่นกัน

2.หลังจากเมล็ดงอกจนต้นกล้ามีอายุได้ 15 วันหรือเริ่มมีใบจริง ค่อยย้ายปลูกลงในกระถางหรือถุงปลูกขนาดเล็ก

3.เมื่อต้นกล้าอายุ 30 วันจึงย้ายปลูกลงแปลงหรือภาชนะที่เตรียมไว้ ถ้าปลูกลงแปลงควรใช้ระยะระหว่างต้นและแถวประมาณ 50 x 70 เซนติเมตร สำหรับมะเขือเทศแบบไม่ใช้ค้าง

ส่วนพันธุ์ที่ต้องใช้ค้างใช้ระยะประมาณ 30 x 70 เซนติเมตร โดยทำค้างเมื่อต้นเริ่มเลื้อยหรืออายุประมาณ 8-10 วันหลังย้ายปลูก อาจทำค้างแบบใช้ไม้ปักผูกเป็นกระโจม หรือใช้เชือกผูกต้นมะเขือเทศไว้ที่ราวลวดก็ได้ สำหรับการปลูกมะเขือเทศในสวนครัวนิยมปลูกแบบขึ้นค้าง แล้วตัดแต่งกิ่งแขนงออกโดยเหลือเพียง 1-2 กิ่งต่อต้น เพื่อให้ได้มะเขือเทศผลใหญ่ขึ้น ทั้งยังช่วยลดปัญหาโรคแมลงที่อาจซ่อนตัวตามกิ่งใบด้วย

4.เคล็ดลับการดูแลต้นมะเขือเทศให้เติบโตอย่างแข็งแรงและออกดอกผลให้อย่างสม่ำเสมอก็คือ การให้น้ำ ผู้ปลูกต้องให้น้ำตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึงผลเริ่มแก่อย่างสม่ำเสมอ กระทั่งผลมะเขือเทศเริ่มเปลี่ยนสีจึงลดการให้น้ำลงเพื่อป้องกันผลแตก อย่างไรก็ตามไม่ควรให้น้ำจนดินขังแฉะเพราะอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคโคนเน่าได้