หินเลพิโดโครไซต์ (Brazil,Lepidocrocite) หินมงคล หินนำโชค รับประกันของแท้ 100 %

เลพิโดโครไซต์(Lepidocrocite) เป็นแร่สีแดงสวยงามของ เหล็กออกไซต์-ไฮดรอกไซด์(γ-FeO (OH)) มีโครงสร้างผลึกแบบ ออโธลอมบิก(Orthorhombic) มีระดับความแข็งของโมร์ที่ระดับ 5 ความถ่วงจำเพาะ 4 ความมันวาวแบบกึ่งโลหะ และสีผงรอยแตกเป็นสีน้ำตาลเหลือง มีโทนสีตั้งแต่สีแดง จนถึงน้ำตาลออกแดง  สามารถพบเลพิโดโครไซต์ได้ทั่วไปในที่ที่มีเหล็กและแร่เหล็ก แต่สีของมันจะไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่เมื่อมันเกิดอยู่ในควอตซ์ กลับทำให้ผลึกแร่ชิ้นนั้นมีความน่าสนใจ และเป็นที่ต้องการของนักสะสมทันที จากสีแดงที่ดูเหมือนน้ำที่มีเสน่ห์ การเกิดของเลพิโดโครไซต์ มันจะเกิดการก่อตัวเมื่อสารหรือแร่ที่มีธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบอยู่ในสภาวะที่มีน้ำ สามารถพบมันได้ทั่วไปในบริเวณที่มีการผุกร่อนของแร่เหล็ก และในแหล่งแร่เหล็ก ในวัสดุที่ประกอบด้วยเหล็กทั่วไป จะสามารถพบมันเป็นสนิมภายในท่อน้ำเหล็กเก่า หรือในถังเก็บน้ำ โครงสร้างของแร่เลพิโดโครไซต์ นั้นคล้ายกับโครงสร้างของแร่เบอห์ไมต์(Boehmite) ที่พบในแร่บอกซ์ไซต์(สินแร่อลูมิเนียม) และประกอบด้วยชั้นเหล็ก(III)ออกไซด์ ที่มีพันธะต่อกันโดยพันธะไฮโดรเจนผ่านชั้นไฮดรอกไซด์ ซึ่งต่อกันเป็นแนวยาวไปตามลักษณะของผลึกแร่ ชื่อและที่มาของชื่อ ถูกพูดถึงครั้งแรกในปี ค.ศ.1813 จากการพบในแหล่งแร่เหล็กใน แคว้นโมราเวีย(Moravia) ประเทศสาธารณรัฐเช็ก(บางแหล่งข้อมูลจะถือว่า พบที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะช่วงเวลาดังกล่าว ก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พื้นที่ในแคว้นโมราเวียยังเป็นของประเทศเยอรมันอยู่ แต่ในช่วงเวลาหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกกลืนมาอยู่ประเทศสาธารณรัฐเช็ก) โดยใช้ชื่อที่มาจากภาษากรีก  คำว่า ลิพิส(lipis) ที่แปลว่า "สะเก็ด" และ โครคิส(Krokis) ที่แปลว่า "เส้นไย" รวมความหมายว่า เส้นไยแบบสะเก็ด ซึ่งเป็นการอธิบายถึงลักษณะของมัน ในบางแหล่งข้อมูลจะเรียกว่า "ลิพิโดโครไซต์(Lipidocrocite)" รวมถึงพจนานุกรมศัพท์แร่และอัญมณีของราชบัณฑิตฯ ซึ่งทางร้านจะสะกดตามฐานข้อมูลของ IMA(International Mineral Association) ครับผม นอกจากชื่อเลพิโดโครไซต์แล้ว ยังมีชื่ออื่นๆที่ใช้เรียกอีก เช่น เอสเมอรัลดาไอต์(Esmeraldaite), เอสเมอรัลไดต์(Esmeraldite) และ ไฮโดรเฮมาไทต์(Hydrohematite) ความเชื่อของเลพิโดโครไซต์

เลพิโดโครไซต์ช่วยนำพลังแห่งดิน ช่วยกระตุ้นทางปัญญา มันช่วยเพิ่มความเข้าใจ การหยั่งรู้และสัญชาตญาณ  มันให้พลังงานที่ช่วยในเรื่องของการรักษา ข้อมูล ความสามารถในการสื่อสาร และการถ่ายทอด มันทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความคิดที่มีสติและสิ่งที่เกิดขึ้น นำความคิดไปสู่การประยุกต์ใช้ด้วยความความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง รักษาความรับรู้ ช่วยทำความสะอาดจักระทั้งหมด เป็นหินแห่งอนาคตและจะนำความรู้ไปสู่ผู้ที่สนิทสนมกับมันโดยการขจัดความสับสนทางจิต และปลุกกายดีที่หลับไหลในตัวเองให้ตื่นขึ้น