Product description
ตลับพร้อม ครุฑ ปี พ.ศ.2517 สภาพผ่านใช้ [พร้อมส่ง]
เหรียญบาทพญาครุฑ จึงเป็นเครื่องรางที่ผู้เดินป่า พรานไพร คนตัดไม้ พกติดตัวเข้าป่าเพื่อป้องกันสิ่งลี้ลับ...แค่เหรียญบาทตราครุฑเท่านั้น ไม่ต้องผ่านพิธีกรรมการปลุกเสกแต่อย่างใด
อีกเรื่องหนึ่งซึ่งผู้เฒ่าท่านหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่าสมัยที่ท่านเคยตัดไม้และล่องไม้ไปตามแม่น้ำปิงไม้บางท่อนไม่ยอมไหลไปตามกระแสน้ำบางท่อนอยู่นิ่งลักษณะคล้ายการไหลทวนน้ำผู้เฒ่าท่านนี้จึงเอาเหรียญบาทตราครุฑตอกลงไปที่หัวไม้ท่อนนั้นปรากฏว่าไม้ท่อนนั้นพลิกตัวหมุนกลิ้งไปมาอย่างน่าแปลกประหลาดก่อนจะไหลไปตามกระแสน้ำเช่นเดียวกับหมอผีบางท่านหากตรวจพบว่าผีสัมภเวสีเข้ามาสิงสู่ในเสาบ้านทำให้คนในบ้านอยู่ไม่เป็นปกติสุขหมอผีก็จะตอกเหรียญตราครุฑให้จมหายไปในเนื้อไม้ทั้งเหรียญเป็นการสะกดภูตผีให้อยู่ในภพในภูมิไม่ให้ออกมารบกวนใคร...และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปาฏิหาริย์เหรียญบาทตราพญาครุฑในส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับจากแนวป่าดิบหรือจากประสบการณ์ในชีวิตประจำวันอยู่อีกมากแล้วแต่นักนิยมป่าหรือท่านใดจะได้พบได้เจอเหรียญบาทตราพญาครุฑจึงนับว่าเป็นวัตถุที่มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองมากมายนัก
ในตำนานเมืองฟ้าป่าหิมพานต์นั้นมีเรื่องราวของสัตว์ที่มีอิทธิฤทธิ์มากมายหลายชนิดเช่นราชสีห์คชสีห์อันมีลำตัวเป็นสิงห์แต่มีศีรษะเป็นช้างกินรีกินนรและสัตว์แปลกๆอีกมากมายในบรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้นมีสองอย่างที่นับว่าเป็นเทพเดรัจฉานมีฤทธิ์มากคือหนึ่งเป็นพญานาคราชจ้าวแห่งบาดาลและอีกหนึ่งคือพญาครุฑจ้าวแห่งเวหา
นาคและครุฑต่างเป็นสัตว์ที่คู่กันตามตำนานมีเรื่องราวเล่ากันว่าสัตว์กายสิทธิ์ทั้งสองนี้มีบิดาเดี่ยวกันคือมหาฤาษีกัสยปะเทพบิดรแต่คนละแม่โดยพญาครุฑนั้นมีมารดาเป็นภรรยาหลวงส่วนนาคนั้นมีแม่เป็นภรรยาคนรองนางทั้งสองนี้ไม่ถูกกันมีเรื่องกันตลอดจนในที่สุดความผิดใจกันนี้ลามไปถึงลูกของตน
ด้วย จึงเป็นเหตุให้นาคและครุฑไม่ถูกกันในเวลาต่อมา
พญานาคนั้นมีวิมานอันเป็นทิพย์อยู่ในบาดาลส่วนครุฑก็มีวิมานทิพย์อยู่ที่เชิงเขาไกรลาสกล่าวว่าองค์พญาครุฑนั้นมีนามว่าท้าวเวนไตยเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าท้าวสุบรรณมีกายเป็นรัศมีสีทองมีเดชอำนาจมากที่สุดในหมู่ครุฑทั้งหลายอาศัยเกาะอยู่ตามต้นงิ้วอาศัยผลงิ้วและน้ำดอกไม้จากต้นงิ้วเป็นอาหารทิพย์ลูกพญาครุฑจะโตขึ้นนับเวลาอายุเป็นข้างขึ้นข้างแรมตามจันทรคติเติบโตด้วยบุญกุศลที่เคยทำมาหากลูกครุฑตนใดที่มีบุญญาธิการมามากอำนาจบุญจะบันดาลให้เกิดผลงิ้วทิพย์และน้ำหวานจากดอกไม้มาบำเรอลูกครุฑตนนั้นๆและลูกครุฑตนดังกล่าวจะจำเริญวัยได้อย่างรวดเร็ว
ครุฑเป็นสัตว์กึ่งโอปปาติกะหรือกึ่งพวกกายทิพย์คล้ายชาวลับแลและพวกพญานาคอยู่อีกมิติหนึ่งจากโลกของเราผู้ที่จะสามารถพบเห็นครุฑได้ต้องเคยมีบุญร่วมกับพวกเขามาจึงสามารถรับรู้ถึงกันและกันได้เหมือนกับผู้ที่สามารถติดต่อกับพญานาคได้ก็เช่นกันล้วนต้องเป็นผู้ที่มีวาสนาต่อกันมาตั้งแต่อดีตทั้งนั้นไม่ใช่เรื่องสาธารณะที่จะรู้กันได้ทั่วไปเช่นเรื่องสามัญ
เรื่องของครุฑเป็นเรื่องราวที่มีความอัศจรรย์โลดโผนยิ่งกว่าเรื่องราวของพญานาคเสียด้วยซ้ำไปแต่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้กันเพราะไม่ได้ศึกษาและอาจไม่ค่อยสนใจเท่าใดนักความเป็นจริงแล้วเรื่องครุฑเป็นเรื่องที่น่าศึกษามากเพราะทางฮินดูเขานับถือครุฑว่าเป็นเทพเจ้าสำคัญพระองค์หนึ่งแม้ในทางไทยเราเองทางไสยศาสตร์ก็ให้ความนับถือเกี่ยวกับครุฑนี้มากดูอย่างตราแผ่นดินเองก็มีรูปลักษณะเป็นครุฑจึงน่าสนใจว่า“ครุฑ”นั้นคงมีอานุภาพบางอย่างและน่าจะเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในอีกมิติหนึ่งเช่นเดียวกันกับพญานาคถ้าท่านเชื่อว่าพญานาคมีจริงพญาครุฑก็ย่อมมีจริงเช่นกัน
พลังอำนาจที่เทียบเท่า พระผู้เป็นเจ้า
อำนาจของพญาครุฑนั้นท่านว่าลึกลับมากนักในตำนานของฮินดูกล่าวว่าตั้งแต่แรกเกิดมานั้นพญาครุฑก็มีรัศมีกายที่สว่างไสวเป็นที่อัศจรรย์ส่อให้รู้ว่าเป็นผู้ที่มีบุญญาธิการมีอานุภาพเป็นอเนกอนันต์มีฤทธิ์วิชาผาดโผนพิสดารทั้งนี้มีเรื่องกล่าวไว้อีกว่าครั้งหนึ่งพญาครุฑเคยลองฤทธิ์กับองค์พระนารายณ์มหาเทพหนึ่งในสามของทางศาสนาพราหมณ์การรบกันนั้นเป็นที่เลื่องลือไปทั้งสามโลกธาตุพญาครุฑสามารถต่อสู้ด้วยความสามารถรบกันไปเท่าใดก็หาแพ้ชนะกันไม่จนในที่สุดพระนารายณ์และพญาครุฑจึงตกลงกันว่าขอให้เสมอกันในการรบระหว่างเราและท่านพระนารายณ์อนุญาตให้พญาครุฑสามารถอยู่เหนือเศียรตนได้และพญาครุฑก็นอบน้อมโดยการยินยอมให้พระนารายณ์สามารถนำตนเป็นพาหนะไปยังสถานที่ต่างๆได้เช่นกัน
จึงถือกันในหมู่ครูบาอาจารย์กันแต่โบราณว่าพญาครุฑเป็นเทพเดรัจฉานที่มีอานุภาพอิทธิฤทธิ์เทียบเท่าพระผู้เป็นเจ้าอย่างพระนารายณ์อานุภาพของครุฑจึงเป็นที่อัศจรรย์ของทั่วโลกธาตุนอกจากนี้ยังมีประวัติอีกว่ารพระอินทร์เองก็เคยลองฤทธิ์กับพญาครุฑใช้วัชระฟาดพญาครุฑแต่องค์พญาครุฑเป็นกายสิทธิ์หาได้เป็นอันตรายแต่อย่างใดไม่พระอินทร์พยายามอยู่หลายทางก็ไม่สามารถทำอันตรายแก่องค์ครุฑได้จนพระอินทร์มีความเคารพในอานุภาพของพญาครุฑว่ามีฤทธิ์เดชเทียบเท่าพระผู้เป็นเจ้าจริงในที่สุดพญาครุฑจึงได้สลัดขนตนเองออกมาหนึ่งเส้นให้แก่พระอินทร์เพื่อเป็นเกียรติแก่พระอินทร์ด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าตามตำนานที่กล่าวมาพญาครุฑเป็นเทพเดรัจฉานที่มีฤทธิ์ที่ไม่ธรรมดาๆเลยมีอานภาพมากด้วยเหตุนี้ครูบาอาจารย์ที่รู้จักศาสตร์ของครุฑเป็นอย่างดีจึงนำเอาสัญลักษณ์เกี่ยวกับครุฑรูปครุฑต่างๆมาทำสมาธิบูชาเพื่อให้เกิดอิทธิพลังงานอันลี้ลับทั้งนี้เพื่อการปกป้องคุ้มครองบ้างเพื่อความเจริญรุ่งเรืองบ้างดังที่เราจะได้เล่าให้ท่านทราบต่อไป
สัญลักษณ์ครุฑ สัญลักษณ์แห่งแผ่นดิน