Product description
รูปพิมพ์ด้วยกระดาษ 4 สีคมชัดอย่างดี 2 ด้าน
เหมาะสำหรับพกพาในกระเป๋าเงิน หรือ ติดไว้ในรถยนต์
พิมพ์ 4 สี 2 ด้าน เคลือบ เงา 2 ด้าน
ผลิตโดย สำนักพิมพ์พระพุทธศาสนาประกาศ
แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม เกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2437 ในครอบครัวที่ยากจน บิดาคือนายยิ้ม และมารดาคือนางสวน กลิ่นผกา ท่านเกิดที่คลองสามวา อำเภอมีนบุรี จังหวัดพระนคร ต่อมาย้ายไปอยู่ที่ตำบลบางปะกอก อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี
ในวัยเยาว์ ท่านได้รับความรักและการอบรมจากบิดามารดาอย่างดี ท่านเรียนรู้ภาษาไทยจนอ่านเขียนได้ และได้รับการฝึกฝนในการทำงานบ้านและการทำอาหาร นอกจากนี้ท่านยังมีความสามารถในการเย็บผ้าและการนวด ท่านได้รับการสอนจากปู่คืออาจารย์กลิ่น ซึ่งเป็นหมอนวดมีชื่อเสียง ท่านจึงกลายเป็นหมอนวดผู้มีชื่อเสียงในภายหลัง
ในช่วงวัยรุ่น ท่านมีความคุ้นเคยกับหลวงตาพริ้ง ลุงของท่านที่เป็นพระภิกษุที่วัดบางปะกอก ท่านได้เริ่มนำอาหารไปถวายและได้รับการสอนธรรมะจากหลวงตาพริ้ง จึงเริ่มเลื่อมใสในพุทธศาสนาและมีใจรักในการทำบุญ
เมื่อถึงวัยสมรส ท่านได้แต่งงานกับ ส.ต.ท.จ้อย โตงบุญเติม ซึ่งเป็นตำรวจประจำสถานีตำรวจนครบาลสัมพันธวงศ์ ทั้งคู่ไม่มีบุตรธิดา แต่ท่านได้รับอุปการะเด็กหญิงชายอื่นๆ ขณะที่ยังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสามี ท่านไปฟังธรรมและฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานที่วัดสัมพันธวงศ์ เมื่อสามีได้ลาอุปสมบท ท่านได้บวชเป็นชีและปฏิบัติธรรมที่วัดสัมพันธวงศ์
ในปี 2479 เมื่ออายุ 42 ปี สามีของท่านถึงแก่กรรมเนื่องจากช่วยดับเพลิงที่ตลาดน้อย อำเภอบางรัก หลังจากนั้นท่านก็ครองความเป็นโสดและบำเพ็ญบุญ ท่านมีชื่อเสียงในการรักษาโรคและการเป็นหมอตำแยแผนโบราณ ท่านทำการกุศลด้วยความจริงจังและเคร่งครัดในพุทธศาสนา
ด้วยความตั้งใจในการฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านประสบความสำเร็จในจตุตถฌาน และเชื่อกันว่าท่านสามารถเข้าวิปัสสนาได้อย่างรวดเร็วและมีความเชี่ยวชาญในอรูปฌาน การสำเร็จในจตุตถฌานทำให้ท่านเป็นนักเสียสละชั้นยอด มีอารมณ์วางเฉยและสละความโลภอย่างสิ้นเชิง
แม่ชีบุญเรือนเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้และผู้เสียสละ ท่านไม่ต้องการสิ่งใดจากผู้คน ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ธูปเทียน หรือทรัพย์สินใดๆ ความสำเร็จในทางธรรมของท่านเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้ร่วมวิปัสสนาและผู้รู้จักท่านทั้งหลาย
ดังนั้นคนที่รู้จักแม่ชีบุญเรือน มาก่อนก็ดี หรือเพิ่งจะมารู้จักก็ดี จะทราบคติธรรมข้อหนึ่งว่า “ คนที่จะไปหาท่าน จงไปหาด้วยการเป็นผู้รับ ส่วนท่านเป็น ผู้ให้ เป็นผู้เสียสละ เป็นผู้บริการ”